การเดินทางของเรา นวัตกรรมนาหยอด
จากทุ่งนาที่ใครๆ ก็คิดว่าปลูกอะไรก็ไม่ได้
Our Journey
ความเป็นมาของ ข้าวศรีแสงดาว
แรงบันดาลใจของข้าวศรีแสงดาว
‘ข้าวศรีแสงดาว’ แบรนด์ข้าวจากอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ตั้งใจผลิตข้าวอย่างดีที่สุด และใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อส่งมอบรสชาติดั้งเดิมของ ‘ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้’ ที่มีความหอม นุ่ม เป็นเอกลักษณ์ ชูรสชาติอาหารไทยให้อร่อยยิ่งขึ้น พร้อมส่งเสริมเกษตรกรผ่าน โครงการศรีแสงดาวหมู่บ้านนาหยอด ด้วยหลักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น .ข้าวศรีแสงดาวจะรักษาสัญญาที่ “ทำให้ทุ่งกุลาร้องไห้แห่งนี้...ไม่ร้องไห้อีกต่อไป”
-
ข้าวหอมมะลิไทยได้รับการยอมรับว่าเป็น "ข้าวพันธุ์ที่ดีที่สุด"
จากการแข่งขันระดับนานาชาติต่างๆ อย่างไรก็ตาม เกษตรกรไทยยังคงต้องดิ้นรนต่อสู้เนื่องจากราคาข้าวในตลาดโลกที่มีการแข่งขันสูง ทำให้ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับต่ำมาก ทางออกเดียวสำหรับการอยู่รอดของเกษตรกรไทยคือการปรับตัวและสร้างนวัตกรรม
ความท้าทายของการทำนาหว่าน (นาหยอด)
การทำนาหยอดไม่เพียงแต่เป็นวิธีการปลูกข้าวที่เป็นนวัตกรรมที่ต้องใช้ทั้งความรู้และประสบการณ์เท่านั้น การปลูกข้าวในภูมิภาคทุ่งกุลาร้องไห้ยังต้องพึ่งพาน้ำฝนตามฤดูกาล โดยจะออกดอกเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น เกษตรกรสามารถปลูกข้าวได้เพียงปีละหนึ่งครั้ง และหากการเก็บเกี่ยวไม่ดี นั่นหมายความว่าพวกเขาจะสูญเสียรายได้ทั้งปี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยากยิ่งกว่านั้นคือการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของเกษตรกรที่คุ้นเคยกับวิธีการทำนาหว่านที่ต้องใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวในปริมาณมาก พวกเขาต้องได้รับการชักจูงให้ลองใช้วิธีการทำนาหยอดแบบใหม่ที่ลดจำนวนเมล็ดพันธุ์ลงอย่างมาก
การทำให้ชุมชนเกษตรกรทั้งหมดยอมรับวิธีการทำนาหยอดนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก รวมถึงต้องอาศัยความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างเกษตรกรและโครงการหมู่บ้านนาหยอดศรีแสงดาว จากปีแรกที่มีเกษตรกรเข้าร่วมเพียงไม่กี่ราย การเดินทางได้มาถึงจุดที่โครงการครอบคลุมพื้นที่นาทั้งหมด 3,000 ไร่
พวกเราสู้ไม่ถอย..
Thung Kula Rong-Hai, in Suwannaphum District, Roi Et Province.
ที่มาของโรงสีข้าว
บริษัท โรงสีศรีแสงดาว จำกัด ตั้งอยู่ในอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานของประเทศไทย โชคดีสำหรับเราที่อำเภอสุวรรณภูมิตั้งอยู่ใจกลางของทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่เพาะปลูกข้าวที่ดีที่สุดของโลก
ศรีแสงดาว ย้อนกลับไปในปี 2538 เมื่อเราได้รับการแต่งตั้งจากกรมการค้าภายในให้เป็นตลาดกลางสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเอกชนแห่งแรกของจังหวัด รับซื้อข้าวจากเกษตรกรด้วยระบบการกำหนดราคาที่ทันสมัยและเป็นธรรม ในปี 2561 ศรีสังข์ทองได้ร่วมมือกับภาครัฐในการส่งเสริมข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ให้เป็นสินค้าไทยชนิดแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (PGI) ทำให้เรามีโอกาสได้ทำงานร่วมกับเกษตรกรอย่างใกล้ชิดเพื่อยกระดับวิธีการปลูกข้าวให้ได้มาตรฐานสากล นั่นเป็นช่วงที่เราตระหนักถึงความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ของชาวนา โดยราคาข้าวตกต่ำลงในตลาดโลกที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือเหตุผลที่เราตัดสินใจฟื้นฟูศักดิ์ศรีของชาวนาเพื่อช่วยปรับปรุงความเป็นอยู่ของพวกเขา หลังจากการวิจัยวิธีการปลูกข้าว เราได้คิดค้นวิธีการทำนาหยอด และจัดตั้งโครงการหมู่บ้านนาหยอดศรีแสงดาว โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้และปรับปรุงความเป็นอยู่ของชาวนา และส่งมอบข้าวคุณภาพสู่โลกผ่านข้าวศรีแสงดาว
บทสัมภาษณ์ผู้ก่อตั้งศรีแสงดาว
In the old days during harvest time, rice farmers would hire drivers to deliver their rice to the market. This led to a shady system known as “Braking cost”. The drivers would make a deal with some of the rice mills to earn kickbacks in exchange for “overlooking” the weight or humidity of the rice deliveries. But when the Department of Internal Trade appointed Srisangdao as a central rice market, the “Braking cost” system disappeared, as the rice market had to be above- board. Rice mills had to buy rice at a fair price, using accurate scales. Srisangdao has strictly implemented this system ever since we became the central rice market until we set up a rice mill.
Rice farmers also had to be honest, using pure Thai Hom Mali Rice seeds for cultivation, and selling their harvest without mixing in other rice varieties. Srisangdao Rice buys Thai Hom Mali Rice only from farmers in the Thung Kula Rong-Hai region. After quality inspection to ensure it meets international standards, we offer high prices according to the quality and true weight. The rice is then milled through a special process, then delivered to the consumer.
Srisangdao upholds the manifesto transmitted through the generations: “We shall buy rice from farmers in a spirit of honesty and sincerity.” Furthermore, the rice mill has to ensure that the well-being of rice farmers is improved. That was the origin of the Srisangdao Direct Seeding (Na Yot) Village Project that aimed to share know-how on innovative rice cultivation techniques known as the na yot (direct seeding) method that would restore the farmers’ dignity and self-reliance, in the belief that if farmers survive, rice mills will also survive. Our rice mill has received the trust of the rice farmers because of the belief in mutual benefits, therefore “honesty and sincerity” has always been the standpoint of Srisangdao Rice even till today.
การเดินทางของ ข้าวศรีแสงดาว
ร้านศรีแสงดาว
จดทะเบียนในนาม ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีแสงดาว (สุวรรณภูมิ) เพื่อผลิตปูนซีเมนต์และบล็อกคอนกรีต
กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ แต่งตั้งให้ศรีแสงดาวเป็นตลาดกลางข้าวและผลผลิตทางการเกษตรประจำจังหวัดร้อยเอ็ด โดยเป็นผู้รับซื้อข้าวภาคเอกชนรายแรกที่ใช้ระบบการรับซื้อที่ทันสมัยและเป็นธรรม
จดทะเบียนในนาม ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีศรีแสงดาว
จดทะเบียนในนาม บริษัท ศรีแสงดาวไบโอพาวเวอร์ จำกัด
ปรับโครงสร้างจากห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็น บริษัท ศรีแสงดาว (สุวรรณภูมิ) จำกัด และ บริษัท โรงสีศรีแสงดาว จำกัด
จัดตั้งโครงการหมู่บ้านนาหยอดข้าวศรีแสงดาว เพื่อส่งเสริมข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ที่ได้รับรางวัล GI พร้อมทั้งเปิดตัวแบรนด์ข้าวศรีแสงดาว